ชาวต่างชาติสนุกสนานกับงานสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร
วันสงกรานต์ปีใหม่ไทยแวะเวียนมาบรรจบ อีกครั้งในวันที่ 13 เมษายน นางสงกรานต์ปีนี้ชื่อนางพระนางโคราคะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกปีบ แก้วมุกดาหารเป็นอาภรณ์ ภักษาหารน้ำมัน เนย พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาบนหลังเสือ มีการทำนายทายทักกันว่าพระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี แต่จะมีคนตกงานและเจ็บไข้ได้ป่วยจำนวนมาก

แต่ไม่ว่าคำพยากรณ์จะดีหรือร้ายเพียงใด ชีวิตก็ต้องดำเนินกันต่อไป และที่แน่ๆ สงกรานต์ปีนี้มีอะไรสนุกๆรออยู่เพียบ และกิจกรรมงานสงกรานต์ที่ฉันคัดเลือกมานี้ก็สำหรับคนที่อยู่ในกรุงเทพฯไม่ ได้เดินทางไปเที่ยวที่ไหนโดยเฉพาะ

ร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ในวันสงกรานต์
เริ่มจากสงกรานต์ที่แรก "งานมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร" ที่จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10-15 เมษายน 2552 โดยมีพื้นที่จัดงานบริเวณ 9 พระอารามหลวง และพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยมีจะมีเปิดงานในวันที่ 10 เมษายน ในเวลา 18.00-21.00 น. ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั่นเอง และในงานจะมีการจำลองเอางานสงกรานต์ 4 ภาคมาไว้ให้ชมกัน รวมถึงมีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป 4 ภาค และการสาธิตการทำอาหารและขนมพื้นบ้าน การแสดงทางวัฒนธรรมจากภาคต่างๆ อีกด้วย

ส่วนกิจกรรมไม่น่าพลาดอื่นๆ ในงานนี้ก็คือ "สงกรานต์วิถีไทย" และ "ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวง" (13-15 เมษายน) บริเวณ 9 พระอารามหลวง และรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) วัดสุทัศน์เทพวรารามวรมหาวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร โดยผู้ที่ไปไหว้พระในวัดใดวัดหนึ่งนี้สามารถขอรับ Passport ไหว้พระ 9 วัดได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ประจำวัดทุกวัด และหากไปไหว้พระและประทับตราครบ 9 วัด ก็สามารถมารับคูปองลุ้นรางวัลพระเลี่ยมทองคำจาก 9 พระอารามหลวง และรางวัลอื่นๆ ได้อีกด้วย แหม...ได้ทั้งกุศลได้ทั้งของรางวัลเลยทีเดียวเชียว

ขบวนแห่งานสงกรานต์ที่จะเคลื่อนจากพระบรมรูปทรงม้ามายังสนามหลวง
แต่หากใครมาที่วัดชนะสงครามฯ 1 ใน 9 วัดนี้แล้ว ก็จะมีความพิเศษตรงที่สามารถไหว้พระกันได้ถึง 3 ทุ่มเลยทีเดียว โดยในระหว่างวันที่ 9-15 เม.ย. เวลา 14.00-21.00 น. นี้ทางวัดชนะสงครามฯจะจัดกิจกรรม "ไหว้พระขอพรตอนกลางคืน" โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นลานจัดกิจกรรมการสาธิตศิลปหัตถกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับประเพณี สงกรานต์ เช่น การทำน้ำปรุง แป้งร่ำพวง การประดิษฐ์ดอกไม้แบบไทย การแกะสลักของอ่อน การแทงหยวก การสานปลาตะเพียน และการกวนกาละแม นอกจากนี้ยังมีเวทีการแสดงสลับกับดนตรีไทยแนวร่วมสมัยกับการแสดงนาฏศิลป์ไทย ทั้ง 4 ภาค การแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว และส่วนที่สองเป็นการจำลองบรรยากาศตลาดโบราณ มีการจำหน่ายอาหารคาวหวานและอาหารพื้นบ้านนานาชนิด

ส่วนกิจกรรม "สงกรานต์ถนนข้าวสาร-บางลำพู-วิสุทธิกษัตริย์" ก็เป็นส่วนหนึ่งในงานมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานครด้วยเช่นเดียวกัน งานนี้จะจัดขึ้นบริเวณสวนสันติชัยปราการ ถนนข้าวสาร ถนนพระอาทิตย์ บางลำพู และวิสุทธิกษัตริย์ ในวันที่ 11-13 เมษายน โดยในวันที่ 11 เม.ย. เวลา 08.30 จะมีขบวนแห่ชักพระจากสี่แยกวิสุทธิกษัตริย์มาปล่อยนกปล่อยปลาเพื่อเป็นการทำ บุญวันสงกรานต์กันที่สวนสันติชัยปราการ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนวันที่ 12 เม.ย. เวลา 10.00 น. มีพิธีแห่พระพุทธรูปพระพุทธบางลำพูประชานาถ จากวัดบวรนิเวศวิหาร มาประดิษฐานให้ประชาชนสรงน้ำ ณ สวนสันติชัยปราการ และวันที่ 13 เม.ย. เวลา 07.00 น. จะมีขบวนแห่รถบุปผาชาติ และหลวงพ่อข้าวสาร ผ่านสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าสี่แยกคอกวัว แห่ไปบริเวณบางลำพูและกลับสู่ถนนข้าวสาร

การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ กิจกรรมดีๆ ในวันสงกรานต์
ส่วนงานใหญ่งานที่สอง "เทศกาลมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร" ที่ทางกรุงเทพมหานครจัดขึ้นนั้นก็จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12-15 เม.ย. ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 เม.ย. จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากพระที่นั่งพุทธไธสวรรค์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อัญเชิญไปตามเส้นทางต่างๆ ให้ประชาชนสักการะและสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะจอดให้ประชาชนสักการะและสรงน้ำ 3 จุด ได้แก่ บริเวณวงเวียนใหญ่ เวลา 10.30 น. บริเวณสวนสันติชัยปราการ เวลา 13.15 น. และบริเวณถนนข้าวสาร หน้าวัดชนะสงคราม ในเวลา 14.00 น. จากนั้นจะอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ให้ประชาชนได้สรงน้ำกัน

และกิจกรรมเด่นอีกอย่างหนึ่งในงานก็คือจะมีขบวนรถบุปผาชาติสวยงาม กว่า 30 คัน ในวันที่ 12 เมษายน โดยขบวนรถบุปผาชาติจะเคลื่อนออกจากลานพระบรมรูปทรงม้าในเวลา 16.30 น. มาตามถนนราชเนินนอก ผ่านหน้ากองทัพภาคที่ 1 เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลางผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเข้าสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นักท่องเที่ยวสามารถรอชมความงดงามได้ตลอดเส้นทาง

ผู้คนมาร่วมเล่นสงกรานต์กันคึกคักที่ถนนข้าวสาร
และในช่วงเช้าของวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันมหาสงกรานต์ ก็จะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 182 รูป ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง หลังจากนั้นจะมีพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ จากนั้นก็เย็นฉ่ำไปกับบรรยากาศของสวนน้ำพุดนตรี 7 นางสงกรานต์ ที่แวดล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ทั้งไม้สวนและไม้ดัด บ้านเรือนไทยจำลอง นิทรรศการสงกรานต์ และการละเล่นพื้นเมืองทั้ง 4 ภาคของไทย และสนุกสนานกับบรรยากาศงานวัดและเกมการละเล่น อาทิ ชิงช้า ม้าหมุน ปาเป้า สอยดาว โยนห่วง ชมการประกวดก่อเจดีย์ทราย กิจกรรมการแสดงประเพณีสงกรานต์ 4 ภาค ซุ้มจำหน่ายอาหาร 4 ภาค การแสดงจากนักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียงและมหรสพสมโภชเทศกาลปีใหม่ไทยตลอดงาน กิจกรรมเยอะขนาดนี้ก็ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

และสำหรับกิจกรรมสงกรานต์สนุกๆที่จัดอยู่เป็นประจำทุกปีก็ต้องที่นี่ "มหาสงกรานต์ ถนนข้าวสาร" 12-15 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น. ที่ปีนี้จัดงานในสโลแกน "สนุกสนานอย่างมีวัฒนธรรม" รณรงค์เรื่องการแต่งกายแบบไทยให้รัดกุม ไม่แต่งตัวโป๊ ไม่เล่นแป้ง ไม่ใช้ปืนฉีดน้ำที่รุนแรง

เริ่มอย่างเป็นสิริมงคลในวันที่ 12 เม.ย. ตั้งแต่ 06.30 น. ด้วยการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์จำนวน 1,500 รูป หลังจากนั้นก็จะมีการทำบุญเลี้ยงพระ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การละเล่นแบบไทยๆ รวมไปถึงการแสดงต่างๆ เช่น การแสดงประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละภาค การแสดงวงดนตรีไทยผสมสากลจากขุนอินทร์ การแสดงดนตรีจากกลุ่มขวดแก้ว เป็นต้น และที่พลาดไม่ได้ก็คือกิจกรรมไฮไลท์อย่าง "การประกวดนางงามสงกรานต์อินเตอร์" ที่จะมีการคัดเลือกชาวต่างชาติจากนานาประเทศมาสวมชุดไทยเพื่อเข้าประกวดชิงรางวัลกัน

เทศกาลแห่งความสนุกสนานกับสายน้ำ
คราวนี้มาเล่นสงกรานต์กันบนรถใต้ดินกันบ้างดีกว่า กับงาน "หรรษามหาสงกรานต์ กับรถไฟฟ้าMRT" โดย จะเริ่มจัดตั้งแต่ 10-15 เม.ย. นี้ มีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลในเทศกาลสงกรานต์ภาย ในสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที 9 สถานี คือ สถานีหัวลำโพง สถานีสีลม สถานีสุขุมวิท สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีลาดพร้าว สถานีพหลโยธิน สถานีสวนจตุจักร และสถานีบางซื่อ อีกด้วย

และที่พิเศษคือ ในวันที่ 13-15 เม.ย. รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีขอเชิญชวนผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปโดยสารรถไฟฟ้าฟรี!!ตลอดเวลาให้บริการ เพียงแค่มาแสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสารแล้วโชว์บัตรประชาชนแสดงให้ดูว่าเป็น สว. สูงวัยจริงๆ พนักงานก็จะมอบคูปองกิจกรรมพิเศษให้เดินทางไปกับรถไฟฟ้าใต้ดินได้ฟรี

และในเส้นทางเดินรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีอย่างที่ "นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก" (โรงละครโจหลุยส์) ในสวนลุมไนท์บาซาร์ ก็ได้จัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ในชื่อ "สงกรานต์หรรษา ที่นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก" ตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย. ด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นการจัดการแสดงโขนผสมผสานการแสดงหุ่นละครเล็ก เรื่องรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอาสา พิเศษสำหรับ สว. อีกแล้ว เพราะในวันที่ 13 เม.ย. นั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เข้าชมการแสดงฟรี งานนี้ก็จูงมือคุณพ่อคุณแม่และญาติๆสูงวัยทั้งหลายนั่งรถไฟใต้ดินมาขึ้นที่ สถานีลุมพินี ทางออกหมายเลข 3 ได้เลย

รอชมขบวนแห่รถบุปผาชาติกันได้ในงานมหาสงกรานต์กรุงเทพฯ
ทางด้าน BTS ก็ไม่ยอมแพ้ จัดให้คนสูงอายุและเด็กๆขึ้นฟรีในช่วงวันสงกรานต์ 13-15 เม.ย. นี้ สำหรับคนแก่เพียงแสดงบัตรประชาชนว่ามีอายุ 60 ปีขึ้นไป และสำหรับเด็กก็ไปวัดส่วนสูง หากไม่เกิน 140 ซ.ม.ก็ติดต่อขอรับคูปองการเดินทางฟรีได้ทั้ง 23 สถานีด้วยเช่นกัน

มาปิดท้ายงานสงกรานต์กันกับงาน "Bangkok Songkran Music Festival @ Siam Paragon 2009" ในวันที่ 13-15 เม.ย. ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน อย่าพลาดชมการแสดงตำนานมหาสงกรานต์โดยเหล่านักแสดงชื่อดัง ผ่านการกำกับจากภัทราวดี เธียร์เตอร์ เพื่อให้ผู้ชมได้รับทราบถึงความเป็นมาของเทศกาลมหาสงกรานต์ ในวันที่ 12 เม.ย. เวลา 18.00 น.

ส่วนในวันที่ 13-15 เม.ย. ก็จะมีมหกรรมคอนเสิร์ต The Most Happines "สงกรานต์ สุขใจ คนไทย รักกัน" ใน แนวดนตรีสากลหลากสไตล์ทั้ง Pop-Rock Pop-Dance และ Indy จากศิลปินนักร้องดังและวงดนตรีชั้นนำ อาทิ โดม ปกรณ์ ลัม, รุจ, แก้ม เดอะ สตาร์, กอล์ฟ-ไมค์, บี้เดอะสตาร์, ดา เอ็นโดฟิน, Zeal, นัท ต้อล AF 4, ชิน ชินวุฒิ, เป็ก ผลิตโชค, B.O.Y, สวีทมูเลท, เอ บี นอร์มอล, เอ็ม อรรถพล, Hangman, Buddha Bless, แบล็คเฮด, เพลย์กราวน์, ZAZA, คิว วงฟลัว, อพาร์ตคุณป้า, พัดชา AF2, พาสนา AF2 ฯลฯ มาร่วมสนุกกันได้ตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. ฟรีจ้า

เขาวัง พระราชวังบนยอดเขาแห่งแรกของไทย
เมืองเพชรบุรีชวนเที่ยวงาน "พระนครคีรี - เมืองเพชร ครั้งที่ 23" ในวันที่ 10-19 เมษายน 2552 ณ เขาวัง และบริเวณโดยรอบอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี

"พระนครคีรี" พระราชวังบนยอดเขาแห่งแรกของไทย ตั้งอยู่ที่ เขาวัง ภูเขาขนาดย่อมอยู่ใจกลางเมืองเพชรบุรี โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2402 มีเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กองก่อสร้างและโปรดให้สร้างวัดประจำพระราชวัง "วัดพระแก้วน้อย" สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระราชทานนามว่า "พระธาตุจอมเพชร" ปลูกต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทมไว้ตลอดสองข้างทางเชื่อมยอดเขาทั้ง 3 ยอด และหมู่พระที่นั่งต่าง ๆ

พระนครคีรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเพชรบุรี มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และความสวยงามของธรรมชาต ปี พ.ศ. 2478 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ปี พ.ศ. 2522 ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประเภทแหล่งอนุสรณ์ ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี ต้นลีลาวดีบนเขาวังที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 200 ปี ที่มีถึง 1,263 ต้น ต่างอวดโฉมออกดอกบานสะพรั่งกว่า 1 ล้านดอก

พระนครคีรีหรือเขาวัง เป็นสถานที่จัดงานประจำปีของจังหวัดเพชรบุรี ติดต่อกันมายาวนานถึง 22 ครั้ง ปี พ.ศ. 2552 พระนครคีรีมีอายุครบการก่อสร้างถึง 150 ปี การจัดงานในปีนี้จึงได้แนวความคิดว่า "150 ปี พระนครคีรี สดุดีพระจอมเกล้า" โดยได้รวมงานกาชาดจังหวัดเพชรบุรีเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมและร่วมสร้างกุศลกับเหล่า กาชาดจังหวัดเพชรบุรี

กิจกรรมภายในงาน

- พิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง / บวงสรวงบูรพมหากษัตริยาธิราช
- กิจกรรม 150 ปี พระนครคีรี สดุดีจอมเกล้าฯ / ขบวนแห่เทิดพระเกียรติ
- นั่งรถรางชมเมือง ฟังเรื่องเล่าและตำนานเมืองเพชร
- นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และเศรษฐกิจพอเพียง
- การแสดงของกรมศิลปากร ขบวนแห่เทิดพระเกียรติและวิถีเพชรบุรี การแสดงบนเวทีกลาง
- การประกวดสาวหวานเมืองเพชร การสาธิตการทำอาหารและขนมพื้นบ้าน การออกร้านสินค้า OTOP
- การแข่งขันวัเทียมเกวียน กีฬาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเพชรบุรี
- การออกร้านกาชาดและสลากกาชาดจังหวัดเพชรบุรี ลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์เก๋ง!!
- การประกวดภาพถ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และชิงเงินรางวัล 30,000 บาท ในหัวข้อ "มนต์เสน่ห์เมืองเพชรบุรี" และ "150 ปี พระนครคีรี สดุดีพระจอมเกล้า" (สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3242 8047, 0 3241 0535 หรือ คลิก : www.phetchaburi.go.th/data/photo_phet.pdf)
- การประดับไฟแสงสี และจุดพลุบนเขาวังทุกคืนตลอดการจัดงาน
- การแข่งขันเดิน-วิ่ง แก่งกระจานมินิมาราธอน ในวันที่ 19 เมษายน

ชมผังบริเวณงานได้ที่ www.phetchaburi.go.th/data/plan_phet52.pdf

สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1005-6 หรือ TAT Call Center 1672 สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3242 5573 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3242 8047, 0 3241 0535 หรือ www.phetchaburi.go.th

จับรถไฟไปนั่งรถม้าเมืองลำปางกันดีกว่า
"งานรำลึกประวัติศาสตร์รถไฟ รถม้า ลำปาง ครั้งที่ 10" วันที่ 1 - 5 เมษายน 2552 ณ บริเวณหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง


วันที่ 1 เมษายน 2552

เวลา 06.30 น. ใส่บาตรตอนเช้าพระ 53 รูป “พิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวมากับขบวนรถด่วน ขบวนที่ 13" บริเวณหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง ในบรรยากาศลานนาย้อนยุค”

เวลา 19.30 น. เปิดงาน “ข้าวแลงสะโตกคำ รับขวัญแขกแก้วมาเยือน” พร้อมการแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง

กิจกรรมในงาน

- ชมตลาดย้อนยุค (กาดหมั้ว) แต่งกายย้อนยุค หรือพื้นเมือง
- ชิมอาหารพื้นเมือง ชมเลือกซื้อสินค้าพื้นบ้าน OTOP
- ชมนิทรรศการประวัติศาสตร์รถไฟ รถม้า นครลำปาง
- ประกวดคาวบอยชาย & หญิง และหน่วยงานองค์การในจังหวัดลำปาง
การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
- นั่งรถม้าชมเมืองรอบละ 50 บาท นั่งรถไฟเล็กแลมป์เทค ชมเมืองลำปาง
- การจัดมหกรรมอาหาร บริการท่องเที่ยว
- ข้าวแลงสะโตกคำ พร้อมการแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง ในวันที่ 1 เมษายน 2552
- มหกรรมสินค้าราคาถูก สหกรณ์ผู้ผลิตพบผู้บริโภค และสวนสนุก

สอบถามรายละเอียด สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา โทร. 0 5431 2254
สมาคมท่องเที่ยวนครลำปาง โทร. 0 5431 8809, 0 5422 1813
ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5324 8604

สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปกับทัวร์ในรายการท่องเที่ยวงานรำลึก ประวัติศาสตร์ รถไฟรถม้าลำปาง ครั้งที่ 10 เดินทางโดยรถไฟด่วนพิเศษ ขบวน SP ที่ 13 รายการท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน

31 มีนาคม 2552 กรุงเทพ - ลำปาง

18.30 น. ผู้โดยสารทุกท่าน พร้อมกัน ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง เจ้าหน้าที่สมาคมท่องเที่ยวนครลำปางคอยอำนวยความสะดวกแก่ท่านพร้อมเช็คชื่อ ผู้โดยสารเพื่อจัดที่นั่งหลัง จากนั้น เรียนเชิญทุกท่านร่วมทำพิธีปล่อยขบวนรถด่วนพิเศษSP ที่13 ณ โบกี้ สุดท้าย
19.35 น. รถด่วนพิเศษ SP ที่ 13 เคลื่อนออกจากสถานีหัวลำโพง สถานีปลายทาง เชียงใหม่

1 เมษายน 2552 สถานีรถไฟลำปาง – ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย – วัดพระธาตุลำปางหลวง – บ้านป่องนัก – โรงงานผลิตเซรามิก – อมราสะโตกคำ งานประวัติศาสตร์รถไฟ รถม้า ลำปาง

07.00 น. ขบวนรถด่วนถึงสถานีรถไฟ นครลำปาง มีพิธีต้อนรับทุกท่านที่เดินทางมากับรถไฟขบวนพิเศษ บริเวณหน้าสถานีรถไฟลำปาง พร้อมรับประทานอาหารเช้า (1)
09.30 น. นำท่านเดินทางสู่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อชมการแสดงช้างแสนรู้
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย (2)
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่วัดพระธาตุลำปางหลวง นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำปาง วัดประจำปีเกิดปีฉลู เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าแก้วมรกต พร้อมชมความมหัศจรรย์ Unseen in Thailand (เงาพระธาตุหัวกลับ) ในวิหารพระพุทธซึ่ง ททท.คัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภท เที่ยวเมืองไทยในมุมมองที่คุณไม่เคยเห็น หลังจากนั้น นำท่านเยือนถิ่นทหารที่ บ้านป่องนัก ในค่ายสุรศักดิ์มนตรี (ป่อง ในภาษาพื้นเมือง หมายถึง หน้าต่าง, นักหมายถึง จำนวนมาก, บ้านป่องนัก จึงหมายถึงบ้านที่มีหน้าต่างจำนวนมาก) บ้านหลังนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2468 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ยกพื้นเตี้ยเป็นสถาปัตยกรรมยุโรป แบบคลาสสิกสมัยกรีก เป็นแหล่งรวมภาพประวัติศาสตร์ และข้อมูลมากมาย
16.30 น. นำท่านชมขบวนการผลิตเซรามิก สินค้าเลื่องชื่อของเมืองลำปาง และจังหวัดลำปาง เป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เสร็จแล้วนำท่านเข้าที่พัก
18.30 น. นั่งรถม้าเข้าสู่งาน หลังจากนั้นเชิญท่านร่วมรับประทานข้าวแลง อมราสะโตกคำ (3) พร้อมชมการแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง ประวัติศาสตร์รำลึกรถไฟ รถม้า วันที่รถไฟ รถม้า มาถึงจังหวัดลำปางกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่น หลังรับประทานอาหาร เชิญท่านเลือกซื้อสินค้าOTOP ของดีเมืองลำปางและเที่ยวชมกาดมั่ว แบบล้านนา หลังจากนั้น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

2 เมษายน 2552 หลวงพ่อดำ – พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา – สวนพฤกษศาสตร์ – วัดพระแก้วดอนเต้า – สำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก – ลำปางพลาซ่า

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (4)
08.00 น. นำท่านนมัสการหลวงพ่อดำ (พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ) เป็น 1 ใน 4 องค์ของประเทศไทย สร้างด้วยโลหะผสมรมดำ มีทั้งหมด 4 องค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ 4 ทิศ ของประเทศไทย โดยทิศเหนือประดิษฐานที่ลำปาง
08.30 น. นำท่านเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ)เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดแสดงประวัติความเป็นมาของเหมืองแม่เมาะ พร้อมทั้งเทคโนโลยีการทำเหมือง และการผลิตกระแสไฟฟ้า และการจัดแสดงส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย หลังจากนั้น ชมสวนพฤกษศาสตร์หรือศาลาชมวิว ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ทิ้งดินจากการทำเหมือง ซึ่งได้ปรับปรุงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจโดยการปลูกต้นไม้ในวรรณคดีไม้ ดอกไม้ประดับพันธุ์ต่าง ๆ ภายในบริเวณนี้มีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ส่วนที่น่าสนใจในบริเวณนี้โดยเฉพาะเด็ก ๆ คือ ลานหญ้ากว้างที่มีทางลาดลง หรือ ลานสไลเดอร์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ที่พิพิธภัณฑ์ถ่านหิน (5)
13.00 น. ออกเดินทางสู่วัดพระแก้วดอนเต้า(พระอารามหลวง)ซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระ แก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นเวลานานถึง 32 ปี และเป็นตำนานเกิดพระแก้วดอนเต้าพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำปางอีกองค์ หนึ่ง
14.00 น. นำท่านนมัสการสังขาร หลวงพ่อเกษม เขมโก พระอริยะสงฆ์แห่งล้านนา เกจิอาจารย์ชื่อดัง ของลำปาง ณ สำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก
14.30 น. นำท่านสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดเจดีย์ซาวหลัง ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของลำปาง ภายในมีองค์พระเจดีย์สีขาว 20 องค์ โดยมีความเชื่อว่า หากนับเจดีย์ครบ 20 ถือ ว่ามีบุญ
15.00 น. นำท่านเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึกเมืองลำปาง ณ ลำปางพลาซ่า 17.00 น. นำท่านรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (6)
18.30 น. คณะพร้อมกันที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง (กรณีรถทัวร์ 19.30 น.) หรือสถานีรถไฟนครลำปาง (เวลา 19.00 น.) หรือสนามบินจังหวัดลำปาง (เวลา 16.00 น. โดยสายการบิน พี บี แอร์ เที่ยว 9 Q867 เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร เวลา 17.45 น. ถึง กรุงเทพฯ เวลา 18.55 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิฯ)

อัตราค่าบริการ ราคาท่านละ 4,499.- บาท อัตรานี้รวม
1. ค่าที่พัก 2 คืน
2. ค่าอาหาร 6 มื้อตามที่ระบุในรายการ
3. ค่าโดยสาร รถไฟด่วนพิเศษ ขบวน SP ที่ 13 และ 14 (กรณีเดินทางกลับโดยรถไฟ)
4. ค่าโดยสารรถทัวร์ปรับอากาศ (กรณีเดินทางกลับโดยรถบัส)
5. ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีเดินทางกลับโดยเครื่องบิน)
6. ค่ารถบัสปรับอากาศ หรือรถตู้ปรับอากาศ
7. ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปาง , รถม้า ,ฯลฯ)
8. ค่าผู้คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
9. ค่าประกันอุบัติเหตุ

อัตรานี้ไม่รวม
1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่น ๆ
2. ค่าอาหาร หรือขนมที่นอกเหนือจากรายการที่ระบุ
3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ
4. ค่าทิปผู้คอยอำนวยความสะดวก ,และคนขับรถ , พนักงานยกกระเป๋า

เงื่อนไขการจองทัวร์
1. จ่ายค่ามัดจำ 50% ของราคาทัวร์ต่อท่าน ทันทีที่จองโปรแกรม และจ่ายส่วนที่เหลืออย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
2. สำรองที่นั่งได้ที่ สมาคมท่องเที่ยวนครลำปาง หมายเลขโทรศัพท์ 054-318809 , 221813
3. โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารทหารไทย ชื่อบัญชี สมาคมท่องเที่ยวนครลำปาง
เลขที่บัญชี 328 – 2 – 54023 - 0
4. ส่งเอกสารการชำระเงิน (สลิปเงินโอน) มาที่เบอร์โทรสารหมายเลข 054 - 318809 ,222983

ติดต่อสอบถามและจองทัวร์ได้ที่สมาคมท่องเที่ยวนครลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 0 5431 8809, 0 5422 1813 FAX. 0 5422 2983 หรือ